คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เตือนก่อนสาย 10 หลุมดำเรื่องกิน

เรื่องกินก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้นทุกคำที่กินก็ต้องกินอย่างมีสติ ไม่อย่างนั้นโรคภัยไข้เจ็บก็จะคุกคามตามมา
นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ มี 10 หลุมดำ เกี่ยวกับเรื่องของการกิน ฝากเตือนใจผู้อ่านรักษ์สุขภาพ ให้ใส่ใจกับพฤติกรรมการกินอาหาร 

เริ่มจาก "กินเช้าดีแต่...ต้องมีลิมิต" อย่าคิดเน้น แป้ง (Refined carbohydrate) มากไป เช่น ข้าวราดแกงให้เพลาข้าวลงนิด หรือคิดกินเส้นก็เป็นเกาเหลาก็ยังได้ เพราะแป้งมากจะทำให้หิวง่ายก่อนเที่ยง แถมเสี่ยงอ้วนชวนโรคมาอีกพะเรอ 

ต่อด้วยหลุมดำที่ 2 "กินแค่พออิ่ม" ด้วยเหตุว่ากระเพาะเป็นอวัยวะเฉื่อยกว่าจะส่งสัญญาณ อิ่ม ไปสมองต้องใช้ราว 15 นาที มีเทคนิกง่ายคือให้ อิ่มก่อนอิ่มแล้วจะสบายท้องดีที่สุดครับ 

หลุมถัดไป "ชอบลิ้มก่อนนอน" ขอให้ยามหลับเป็นเวลาพักไส้ ช่วงแรกอาจมีท้องกิ่วนิดๆ แต่ขอให้คิดเถิดครับว่า เพื่อให้สมองได้หลับสนิทแล้วหลั่ง ธาตุนิทรา(Melatonin) กับ ธาตุหนุ่มสาว(Growth hormone) แล้วตื่นมาจะสบายกว่าที่คิด ลองแล้วจะติดใจครับ 

หลุมดำที่ 4 เรียกว่า "อย่าย้อนกระเพาะ" ขอให้เลี่ยงอาหารมัน เพราะเป็นอาหารคิดสั้นสำหรับโรคกระเพาะและกรดไหลย้อนครับ สำหรับอาหารเผ็ดยังไม่น่ากลัวเท่า เพราะของทอดและมันเป็นอาหารอร่อยสั้นแต่มันอยู่ในกระเพาะได้ยาวนานกว่าอาหารอื่น ขืนกินบ่อยต้องระวังกรดย้อนศรมาหานะเธอ 

ครึ่งทางกับหลุมดำที่ 5 "กินต้องฝึก" นึกหิวเมื่อไรให้ดูว่า หิวจริง หรือ หิวหลอก บ่อยครั้งที่เป็นแค่ อยาก คือหิวแบบสับขาหลอกแต่ออกไปหากินจริง คนไทยชอบกินฉึกฉึก เอ๊ย...จุบจิบ เลยฝากวิธีง่ายไว้ให้ถามตัวเองว่า หิวขนาด กินฝรั่งสดได้สักลูกไหม ซึ่งถ้าใช่ก็หิวจริง วิ่งหาอาหารมากระแทกท้องได้ 

สำหรับหลุมดำที่ 6 คือ "นึกแต่หวาน" ของน่าทานชวนติดอันดับหนึ่งคือ ของหวาน ครับ คนไทยเป็น โรคติดหวาน(Carbohydrate addiction) กันมาก มีวิธีสังเกตง่ายว่าเมื่อไรกินข้าวเสร็จแล้วอยากหาเหตุกินของหวานล้างปากอีกหรือไม่ ถ้าใช่ก็ค่อยๆ เลิกครับ 

ขณะที่หลุมดำเรื่องกินที่ 7 "ทานเน้นมัน(ดี)" ขอให้เลือก ไขมันดี ซึ่งไม่มีพระเอกเพียงคนเดียวครับ ต้องจับใช้ให้หลากหลายน้ำมันพืช,สัตว์ ยกเว้นน้ำมันพราย และอย่าใช้น้ำมันแบบแม่ไม่ปลื้ม คือ ยกขวดเท ให้ใช้ช้อนตักใส่กะทะหรือจะใช้แปรงทาก็ได้ 

หลุมดำที่ 8 "กินติดปรุง" อย่ายุ่งกับ พวงเครื่องปรุง ทุกครั้งไป เชฟเจ้าอร่อยเขาถือและมันคือสุขภาพที่เสียไปทุกช้อนที่เติมน้ำปลา,น้ำตาล,ซีอิ๊วหวานหรือซอส เพราะยอดของความอร่อยไม่ใช่รสอุมามิอย่างเดียวแต่เกี่ยวกับรสธรรมชาติแท้ๆด้วยครับ 

มาถึงหลุมดำที่ 9 "มุ่งกินกาก" หากอยากให้สุขภาพดีจน สุดไส้ แถมได้ ล้างพิษ ไปในตัวขอให้ช่วยกิน เส้นใย(ไฟเบอร์) ซึ่งได้แก่กากทั้งละลายน้ำได้และไม่ได้ เป็นต้นว่ากินผลไม้ก็ให้กินเปลือกด้วย(แต่ช่วยระวังทุเรียนและมังคุด) ให้อย่างน้อยวันหนึ่งได้ผักผลไม้สัก 5 ทัพพีครับ 

หลุมดำสุดท้าย "อยากให้หลากหลาย" อย่าปลงใจกับลูกสาวแม่ครัวเจ้าเดียว ขอให้เทียวสลับอาหารให้หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง ขอให้เลี่ยงก๋วยเตี๋ยวสามมื้อหรือเช้าข้าวราดแกง กลางวันแกงราดข้าว หรือจะเอากับข้าวบ้านมาทานสักสัปดาห์ละครั้งก็เก๋ดี 

ทราบแล้วลองนำไปปรับเปลี่ยนนิสัยการกินอาหารกันเสียไหม แล้วรอดูสุขภาพของคุณสิ. 


5 วิธีกินล้างพิษให้ตัวเบา



รวมทั้งวัตถุปรุงอาหารจำนวนมาก ตกค้างอยู่ในร่างกาย และเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสารพิษในระบบย่อยอาหาร ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้สารพิษเกิดขึ้น เราจึงต้องดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ในการ้างพิษที่ช่วยให้เรามีสุขภาพแข็งแรง และทำได้ไม่ยากเลย

           1. ดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาว

          ลองเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำอุ่นหนึ่งแก้วผสมกับน้ำมะนาวครึ่งซีกและพริกป่นอีกหยิบมือหนึ่ง หรือจะใส่น้ำผึ้งเล็กน้อยด้วย ก็ได้ถ้าคุณชอบ รสเปรี้ยวของมะนาวจะกระตุ้นน้ำย่อยและการปล่อยน้ำดีจากตับ ส่วนพริกป่นก็กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารและเร่งอัตราการเผาผลาญ รวมทั้งช่วยขับสารพิษจากเซลล์ไขมัน ถือเป็นการเริ่มต้นกระบวนการขับเคลื่อนของร่างกายในวันใหม่อย่างเหมาะสม

           2. จดบันทึกสิ่งที่กินในแต่ละวัน 
          หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าเหนื่อยล้ากับการทำงานที่ผ่านมา ไม่รู้สึกสดชื่นเหมือนเก่า โรคภัยก็คอยรุมร้าเข้าทำนอง 3 วันดี 4 วันอย่างนั้นแล้ว ก็ให้เริ่มต้นมองหาสิ่งที่สัมพันธ์กับอาการโดยแบ่งเวลาสักวันละ 2-3 นาทีมาบันทึกกิจกรรมประจำวันรวมถึงอาการกิน ว่าคุณกินอะไรไปบ้างทุก ๆ 2 สัปดาห์ และทบทวนดูว่าอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คุณเสี่ยงหรือกระตุ้นให้คุณเกิดโรคต่าง ๆ และช่วยยับยั้งการกำเริบของโรคได้ อีกทั้งยัง เป็นคู่มือที่ทำให้คุณได้รู้ด้วยว่า ร่างกายของคุณ สารอาหารตัวไหนมีประโยชน์ เพื่อจะได้หามากินและดูแลสุขภาพตัวเองได้ถูกวิธีมากยิ่งขึ้น

           3. ดื่มน้ำผลไม้ล้างพิษ 
          การดื่มน้ำผักและผลไม้สามารถล้างพิษสะสมในร่างกาย เพิ่มพลังงานเติมความสดชื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิธีนี้คุณต้องดื่มน้ำผักหรือน้ำผลไม้แบบแยกกากเพียงอย่างเดียว ห้ามผสมน้ำตาลหรือเกลือ แต่อนุญาตให้ผสมน้ำเปล่าได้ในกรณีที่รสชาติเข้มข้นเกินไป ในช่วงนี้ต้องงดอาหารชนิดอื่นในช่วง 1-5 วัน(แล้วแต่ว่าจะเลือกทำกี่วัน) วิธีนี้ทำได้ค่อนข้างง่าย แต่ไม่แนะนำให้ทำติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจเกิดอาการอ่อนเพลียและอ่อนแอ เนื่องจากขาดโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตได้

           4. กินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง

          มีหลักฐานมากมายบ่งชี้ว่าการกินเนื้อแดง และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก เบคอน และกุนเชียง หมูยอ แหนม ฯลฯ มากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะสารประกอบตัวร้ายที่ชื่อว่า เอมีน อาจเข้าไปเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอในเยื่อบุทางเดินอาหาร อันเป็นขั้นแรกของการก่อให้เกิดมะเร็ง กองทุนวิจัยด้านมะเร็งของโลกรายงานว่า การกินเนื้อสัตว์แปรรูปมากกว่าอาทิตย์ละ 5 ครั้ง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้สูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงควรกินเนื้อแตงไม่เกิน 500 กรัมต่อสัปดาห์ และกินเนื้อสัตว์แปรรูปแค่นาน ๆ ครั้งก็พอ

           5. ล้างผักผลไม้ทุกครั้งก่อนกิน

          ผักผลไม้มีประโยชน์แต่ก็อาจทำให้เกิดโทษได้ เพราะปัจจุบันมีการเก็บเกี่ยวพืชผักก่อนเวลาสลายตัวของยาฆ่าแมลง ทำให้ร่างกายสะสมสารตกค้างเหล่านี้ไว้ โดยเฉพาะคนที่กินผักหรือผลไม้ซ้ำ ๆ กัน จะได้รับสารเคมีตัวเดิมเพิ่มปริมารมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งเชื้อโรคและพยาธิชนิดต่าง ๆ วิธีที่ดีที่สุดคือ การกินผักและผลไม้ให้หลากหลาย ควบคู่ไปการล้างผักผลไม้ให้สะอาด ก็ช่วยให้เราได้กินอาหารที่ปลอดภัยและลดสารพิษตกค้างในร่างกายได้
 
guru.thaibizcenter