คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

ผู้หญิง ดื่ม แอลกอฮอล์ เสี่ยงสารพัดโรค


………ในอดีตผู้หญิงกับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดูจะไม่ เหมาะกันเอาซะเลย แต่ปัจจุบันผู้หญิงเปลี่ยนไปเยอะ เริ่มหันมามีสังคมกับเพื่อนฝูงมากขึ้น พูดถึงเวลาสังสรรค์ เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น เหล้า เบียร์ ไวน์ หรือค็อกเทล มักเป็นแก้วที่คุณผู้หญิงส่วนใหญ่เลือกดื่มกัน
……… แอลกอฮอล์ เป็นส่วนผสมของคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน ซึ่งเกิดจากการหมักน้ำตาลกับยีสต์ เครื่องดื่มจำพวกไวน์จะได้จากการหมักผลไม้ ส่วนเบียร์หรือเหล้าได้จากการหมักธัญพืช แม้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงแรก จะทำให้รู้สึกสนุกสนานครื้นเครง แต่เมื่อดื่มมากขึ้นจะพบว่าแอลกอฮอล์ จะทำให้รู้สึกเศร้าได้เช่นกัน อีกทั้งยังกระทบถึงการทรงตัว อำนาจการตัดสินใจ รวมไปถึงการยับยั้งชั่งใจด้วย
………แล้วรู้ไหมคะว่า ผู้หญิงที่ดื่มแอลกอฮอล์ จะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงมีมวลร่างกายที่เล็กกว่าและมีไขมันมากกว่า ซึ่งไขมันไม่สามารถดูดซับแอลกอฮอล์ได้ ทำให้แอลกอฮอล์ตกค้างในร่างกายเป็นระยะเวลานาน และจะส่งผลต่อสุขภาพมากมาย อาทิเช่น
 โรคตับ หากดื่มแอลกอฮอล์เพียง 40-60 กรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน 5-10 ปี ก็เสี่ยงต่อโรคตับแข็งและโรคมะเร็งตับ
 โลหิตจาง แอลกอฮอล์ส่งผลให้ร่างกาย สร้างเม็ดเลือดแดงน้อยลง ในขณะที่ผู้หญิงต้องเสียเลือดจากการเป็นประจำเดือนทุกเดือน ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจางมากขึ้น
 มะเร็งเต้านม มะเร็งเต้านมนั้นมีโอกาสเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว แอลกอฮอล์ถือเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งทำให้มีโอกาสเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
 กระดูกพรุน แอลกอฮอล์จะลดประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียมและสารอาหารในร่างกาย ขณะเดียวกันเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะให้พลังงาน คุณจึงไม่รู้สึกหิวและกินน้อยลง หรือบางครั้งก็อาเจียนอาหารที่กินออกมาเวลาที่เมาจัด ทำให้อาจขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการสะสมมวลกระดูกอย่างไป อีกประการหนึ่งคือ มวลกระดูกของผู้หญิงมีขนาดเล็กกว่าผู้ชายตามโครงสร้างทางสรีรวิทยา ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้สูงกว่าด้วย
 ระบบสืบพันธ์ การที่ผู้หญิงดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ จะทำให้ระยะเวลาการตกไข่และประจำเดือนผิดปกติ ทำให้มีบุตรยาก หากดื่มในขณะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะช่วงหกเดือนแรกจะกระทบต่อการสร้างรูปร่างหน้าตาและระบบประสาทของ เด็ก เด็กอาจพิการ หน้าแบน ปากแหว่ง และเป็นปัญญาอ่อนได้ สตรีมีครรภ์จึงควรงดแอลกอฮอล์เด็ดขาด
 ผิวพรรณ ผู้ที่ดื่มจัดจะทำให้ร่างกายขาดวิตามินบี ส่งผลให้ผิวซีด เหี่ยว แห้ง หย่อนยาน เปลือกตาบวม เป็นสิว และเป็นไฝแดง อาจมีอาการของโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งมักเป็นผื่นนูนแดงมีสะเก็ดสีเงินปกคลุม
ที่มาจาก BKKMENU.com

อาหารง่ายๆ ของคนอยากผอม


ถึงจะอยากผอมแค่ไหน ก็ไม่จำเป็นต้องอดอยากปากแห้ง แค่คบอาหารพวกนี้เป็นเพื่อน คุณก็มีสิทธิ์ผอมเท่าคนอื่นเขาเหมือนกัน
1. เหลือที่ว่างสำหรับขนม
รักชอบขนมอะไรไม่ต้องไปอด แต่ต้องตัดข้าวออกสักครึ่งจานเพื่อเผื่อท้องไว้กินขนม อย่างกแบบว่าข้าวก็จะกิน ขนมก็จะเอา
2. อาหารที่ฉ่ำน้ำ
แตงโม มะเขือเทศ แตงกวา เห็ดส้มโอ แคนตาลูป มีติดตู้เย็นไว้อย่าได้ขาด หรือถ้าชอบก๋วยเตี๋ยวก็ต้องกินก๋วยเตี๋ยวน้ำแล้วซดน้ำแกงมากๆ ส่วนมื้อไหนทานข้าว นักไดเอทควรมีแกงจืดวางประจำเป็นผู้ช่วยทุกมื้อ น้ำจะช่วยให้คุณอิ่มเร็ว แถมอิ่มแล้วยังหนักท้อง ไม่หิวบ่อยๆ ด้วย
3. โปรตีนน้อยย่อยง่าย
สุดยอดอาหารโปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันต่ำ ต้องยกให้ปลาทุกชนิด นอกจากนี้ก็ยังมี อกไก่ ไข่ขาว ปู กุ้ง เต้าหู้ นมไขมันต่ำ และถั่ว เห็นมั้ย ไม่ต้องอดคุณก็ยังผอมได้
4. อาหารที่กระตุ้นการทำงาน
ของแบบนี้หากินได้ไม่ยาก เพราะมันก็คือถั่วนั่นเอง จะถั่วลันเตา ถั่วลิสง ถั่วปากอ้าได้ทั้งนั้น ยกเว้นถั่วที่เรียกว่ามะม่วงหิมพานต์ เพราะอาจจะมีไขมันสูงปรี๊ดเกินต้องการไปหน่อย
5. หมากฝรั่งลดความอยาก
มีการวิจัยออกมาว่า แค่เคี้ยวหมากฝรั่งอย่างเดียวเราก็อิ่มได้ เพราะบางทีสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นความหิวอาจจะเป็นแค่อาการโหย อยากมีอะไรเคี้ยวแก้ปากว่างเท่านั้นเอง
6. เครื่องดื่มร้อนๆ
ความร้อนจะกระตุ้นระบบเผาผลาญอาหารให้ทำงานดีขึ้น คนที่ดื่มชาร้อนๆ ตบท้ายมื้ออาหารจึงมักจะผอมกว่าคนที่ตบท้ายด้วยน้ำเย็น
7. อาหารรสจัด
สาร แคปไซซินในพริกคือยากระตุ้นระบบเผาผลาญที่ยอดที่สุด คนที่กินพริกหรืออาหารที่ใส่เครื่องเทศรสจัด จะมีโอกาสผอมเพิ่มขึ้นอีก 20 % โดยไม่ต้องไปวิ่งออกกำลังกายให้เสียเวลา แถมเวลากินของเผ็ดเราก็ต้องดื่มน้ำมากๆ เท่ากับจำกัดตัวเองให้กินน้อยลงไปโดยปริยาย
8. ข้าวโอ๊ตแบบซอง
ข้าวโอ๊ตแบบนี้มีขายตามซูเปอร์ทั่วไป ฉะนั้นห้ามบ่นเป็นอันขาดว่าหาซื้อไม่ได้ เวลาหิวๆ แทนที่จะลุกไปทักทายป้าร้ายขายข้าวแกง แค่คุณชงข้าวโอ๊ตนี่กิน คุณจะอิ่มได้ทันที เพราะข้าวโอ๊ตเป็นอาหารไฟเบอร์สูงเลยหนักท้อง ซองเดียวก็อยู่ได้หลายชั่วโมง แถมแคลอรี่ก็ต่ำ ดีอย่างนี้เอาตำแหน่งคู่ใจนักไดเอทไปเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก spicy

ล้างพิษ ด้วย ชาเขียว


ชาเขียว
………ชาเขียว เครื่องดื่มยอดฮิตที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณเป็นยา บำบัดมายาวนานนับพันๆ ปี เพราะนอกจากชาเขียวจะเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพกายแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพใจอีกด้วย และคุณสมบัติที่โดดเด่นของชาเขียวอีกอย่างหนึ่งก็คือ การช่วยล้างพิษออกจากร่างกายได้ลึกถึงระดับเซลล์ ด้วยสาร Polyphenols ในชาเขียวสามารถออกฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ที่ทำหน้าที่ขจัดสารพิษในตับ (Detoxifying Enzyme) ช่วยยับยั้งขบวนการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง และพัฒนาการทำงานองแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้
………นอกจากนี้ชาเขียวยังสามารถขจัดอนุมูลอิสระช่วยให้หลอดเลือดและหัวใจทำงานดีขึ้น ผิวพรรณสดใสและสนับสนุนการทำงานของเอ็นไซม์ในตับซึ่งเป็นเหมือนโรงงานขจัด สารพิษจากอาหารแห่งเดียวของร่างกาย จึงนับว่าการบริโภคชาเขียวเป็นการล้างพิษทางกายภาพที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุดค่ะ
ผลที่ได้รับจากการล้างพิษด้วยชาเขียว
 ระบบขับถ่ายของเราจะค่อยๆ ดีขึ้นปัญหาท้องผูกและอาการร้อนในลดลง
 
โอกาสเกิดโรคมะเร็งในทางเดินอาหารลดน้อยลงกว่าผู้ที่ไม่ได้บริโภคชาเขียว
 
ผิวพรรณจะค่อยๆ สดใส ไม่หมองคล้ำ ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น
 
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความจำเสื่อม
 
ตับมีสุขภาพดี
 
ที่สำคัญที่สุดยังห่างไกลจากโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ ได้อีกด้วย
ที่มาจาก BKKMENU.com

สูตรหน้าใส มาร์ค/พอกหน้า

วิธีการมาสก์หน้า 
ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดด้วยคลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิ ว ก่อนที่จะพอกหน้าให้ทั่วใบหน้า โดยเว้นรอบ 
ดวงตาและริมฝีปาก แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ( ถ้าจะให้ผลดีอาจใช้ผ้าขนหนูชุบอุ่น ๆ นำมาวางบนหน้า ความร้อน 
จากผ้าขนหนูจะช่วยให้ส่วนผสมในมาสก์ซึมซับสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ) แล้วใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาด จากนั้น 
จึงล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยกระชับรูขุมขนและทำให้ผิวสดชื่น เช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ และตามด้วย 
ครีมบำรุงผิวค่ะ คราวนี้ผิวคุณก็นุ่มละมุนสดชื่น และสดใส ...ชัวร์ 

มาร์คพอกหน้าสูตรใบเตย 
นำใบเตย4-5 ใบมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำไปปั่นรวมกับไข่ไก่ 2ช้อนโต๊ะจะได้มาร์คพอกหน้าเป็นครีมข้นๆ หอมกลิ่นใบเตย พอกหน้าไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างหน้าตามปกติ 

ถนอมผิวหน้าด้วยโยเกิร์ต 
ล้างหน้าให้สะอาด ซับเบาๆด้วยผ้าขนหนู แล้วใช้มือแตะโยเกิร์ต(ให้ใช้ชนิดที่ไม่ผสมเนื้อผลไม้) มาพอกให้ทั่วผิวหน้า เว้นรอบปากและดวงตา นวดและคลีงเบาๆ พอกไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออก หมั่นทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ผิวจะเปล่งปลั่งสดใสอมชมพูทีเดียวค่ะ 

ครีมพอกหน้าสำหรับสาวผิวมันและผิวผสม 
ให้ใช้แตงกวา1 ผล ไขไก่ 1 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่ขาว) และมะนาว 1 เสี้ยว หั่นแตงกวาเป็นแว่นบางๆ นำไปปั่นพร้อมกับไข่ขาวและบีบน้ำมะนาวลงไป ปั่นจนละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตาไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างหน้าตามปกติ หมั่นทำบ่อยๆ ทุกสัปดาห์ จะช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังช่วยสมานผิวหน้า กระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน เต่งตึง และนวลนุ่มชุมชื่น 


ลบรอยกระด่างดำบนใบหน้าด้วยมะละกอสุก 
นำมะละกอสุกมายีให้ละเอียด พอกหน้า ทิ้งไว้ สัก 10 นาที แล้วจึงล้างออก จะช่วยให้ ใบหน้าที่มีรอยด่างดำดูดีขึ้น 

สูตรรักษาฝ้า 
คั้นน้ำมะขามเปียก ให้ค่อนข้างใสสักหน่อย ตั้งไฟอ่อน รอจนสุก จึงใส่น้ำผึ้งลงไปคนให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้ต้องทำพร้อมกัน คือมือหนึ่งเท อีกมือก็คนให้ทั่ว นำมาทาหน้า วันละ 1 ชั่วโมง ช่วยรักษาฝ้า และทำให้ผิวหน้านวลใสขึ้น 

สูตรสาวหน้าใส 
ส่วนผสม น้ำผึ้ง น้ำมะนาว ผสมน้ำผึ้ง 1 ถ้วย น้ำมะนาว 1 ช้อนชา เข้าด้วยกัน นำมานวดให้ทั่วใบหน้า มะนาว จะช่วยขจัดเซลล์ผิว เหมือนครีมที่มีส่วนผสมAHA นั่นแหละ ส่วนน้ำผึ้ง ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น นวดประมาณ 15 นาที 

สูตรลดริ้วรอย 
เลือกใช้ผลไม้ที่หาง่าย จะเป็นแอปเปิ้ล กล้วยหอม แตงกวา หรือมะเขือเทศก็ได้ค่ะ ใช้ปริมาณ 1 ถ้วย นำมาปอกเปลือกและเอาเมล็ดออก นำไปปั่นให้เนื้อละเอียด นำเนื้อผลไม้ที่เตรียมไว้ มาพอกให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก และล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง จะทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม เกลี้ยงเกลา แลดูสดใส 

สูตรกระชับรูขุมขน 
กล้วยหอม แตงกวา มะเขือเทศ (เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง) ปอกเปลือก เอาเมล็ดออก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เติมนมเปรี้ยวหรือน้ำผึ้งลงไป นำไปปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อครีม นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะช่วยทำความสะอาดใบหน้า และช่วยกระชับรูขุมขน และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น 

เคลนเซอร์สำหรับทุกสภาพผิว 
โยเกิร์ต 1/2 ถ้วยน้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะน้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ (คั้นสด ๆ นะคะ)นำส่วนผสมทั้งหมด มาผสมให้เข้ากัน พอกให้ทั่วหน้าทุกเช้าและก่อนนอน แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ ำลึก และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอีกด้วย 

ผิวเรียบเนียนด้วยกาแฟบด 
ก็บรรดา ครีมขจัดเซลลูไลต์ ที่ราคาแสนแพงน่ะ มีคาเฟอีนอยู่ด้วย ซึ่งช่วยกระตุ้นการขจัดเซลล์ไขมันและยังขัดผิวให้เรียบเนียน แต่อาจจะดูยุ่งยากกว่าการใช้ครีมกระปุกอยู่บ้าง จึงควรทำในห้องน้ำ และก่อนที่จะลงมือขัดผิวด้วยกาแฟอย่าลืมปูพื้นห้องน้ำด้วยกระดา ษหนังสือพิมพ์ เพื่อป้องกันท่อน้ำตันค่ะสูตรนี้ใช้กับผิวกายนะคะ ห้ามใช้กับผิวหน้าค่ะและในระหว่างที่ขัดผิว หากมีนวดไปด้วย จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้นได้ค่ะ 

พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง (จากสเปน) 
ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้งแล้วใช้ปลายนิ้วแตะน้ำผึ้งลูบไล้บนใบหน้าและลำคอเบา ๆสักครู่แล้วนวดหน้าด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาสักประมาณ 5 นาทีจนน้ำผึ้งเหนียว นวดต่อไปไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ นอนพักให้ศีรษะอยู่ต่ำกว่าระดับปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลมาหล่อเลี้ยงที่ใบหน้าและลำคอได้สะดวกยิ่งขึ้น พักสักครู่แล้วค่อยๆใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดน้ำผึ้งออก 

นำไข่ขาวมาตีให้ขึ้น แล้วเติมน้ำมะนาว และน้ำผึ้ง อย่างละ 
1 ช้อนชา นำมาชโลมให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้มือนวดเป็นวงกลมไปพร้อม ๆ กัน ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วจึงใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำเช็ดออก จะช่วยทำความสะอาดผิว และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นในขณะเดียวกัน 

นอกจากนำมาทาหรือพอกหน้า เพื่อให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง 
กันแล้ว ในวันหยุด ลองดื่ม ชาผสมน้ำผี้ง จะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น ทำให้ผิวสดใส มีเลือดฝาด แต่ไม่ควรเทน้ำเดือดจัดๆ ลงในน้ำผึ้งนะคะ เพราะอาจทำให้สารที่มีประโยชน์ในน้ำผึ้ง สลายตัวได้ค่ะ 

พอกหน้าด้วยแอ๊ปเปิ้ล (จากเบลเยี่ยม) 
ปอกแอ๊ปเปิ้ล คว้านเอาไส้และเมล็ดออก แล้วบดให้ละเอียดขณะที่บดให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย เมื่อบดจน 
เข้ากันดีแล้ว นำเอาส่วนผสมนี้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วใช้นมสดเย็นๆล้างออก 

พอกหน้าด้วยแตงโม (จากตุรกี) 
ฝานแตงโมเป็นชิ้นบางๆจากส่วนที่แดงที่สุด นำมาแปะให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมหน้าไว้ นอนพักสักครู่ ประมาณ ครึ่งชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น 

พอกหน้าด้วยไข่ขาว (จากสวิตเซอร์แลนด์) 
ต่อยไข่ไก่ 1 ฟอง แยกไข่แดงออก เทเฉพาะไข่ขาวลงในถ้วย ใช้ส้อมตีไข่ขาวจนเป็นฟองพอสมควร แล้วใช้แปรงนุ่มๆจุ่มไข่ขาวทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนไข่ขาวเริ่มจับตัวแข็ง แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น 

พอกหน้าด้วยน้ำมะนาวและน้ำผึ้ง (จากฝรั่งเศส) 
ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้อย่างน้อย ครึ่งชั่วโมง หรือมากกว่า แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น 

พอกหน้าด้วยมะเขือเทศ (จากญี่ปุ่น) 
ฝานมะเขือเทศ 1 ชิ้นหนาๆ ถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอเบาๆตรงบริเวณที่มีสิวเสี้ยน มะเขือเทศมีวิตามินซีและกรดAHA จะช่วยลอกผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกได ้หลังจากนั้นจึงค่อยใช้สำลีชุบน้ำเย็นเช็ดมะเขือเทศออก 

พอกหน้าด้วยนมเปรี้ยว (จากรัสเซีย) 
สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน ให้ล้างหน้าให้สะอาดก่อนจะเอานมเปรี้ยวที่แช่เย็นจัดพอกหน้า ทิ้งไว้ 20 นาทีหรือนานกว่านั้นแล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆเช็ดออก ตำรับนี้จะใช้ได้ผลดีมากในหน้าร้อน จะช่วยให้ใบหน้าที่ซีดเซียวกลับเปล่งปลั่งขึ้นได้ 

การเลือกมาสก์พอกหน้าให้เหมาะกับผิวมัน คุณสามารถใช้มาสก์ได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง มาสก์ที่เหมาะ 
กับคนผิวมัน ควรมีคุณสมบัติช่วยดูดซับความมัน สามารถขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนได้ พร้อมกับช่วยกระชับรูขุมขน 

ผิวแห้ง ควรมาสก์หน้าสัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ มาสก์ที่เหมาะกับคนผิวแห้ง ควรมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว 

มอยเจอร์ไรเซอร์จากกล้วย 
นำกล้วยบด 1 ผล ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อน ยีให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่ว ใบหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น 
จะทำให้ผิวหน้า ชุ่มชื้นขึ้น สูตรนี้เหมาะกับผิวแห้งค่ะ 

เคลนเซอร์น้ำผึ้ง 
ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโตีะ กับจมูกข้าวสาลี 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน นำมาทาให้ทั่วใบหน้า ใช้ปลายนิ้วขัดเบา ๆ เพื่อกระตุ้น 
การไหลเวียนของเลือด และขจัดเซลล์เก่าให้หลุดลอกออกมา ซึ่งน้ำผึ้งจะช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น และยังช่วยลดริ้วรอย 
และจุดด่างดำ 

เคลนเซอร์จากโยเกิร์ต 
ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ กับเกลือป่น 2 ช้อนชา นำมาขัดเบา ๆ บริเวณผิวหน้า จะช่วยลดความมันและขจัดเซลล์เก่าให้ 
หลุดลอกออกมา สูตรนี้เหมาะสำหรับผิวผสมและผิวมัน 

มาสค์พอกหน้าจากมะละกอ 
นำมะละกอมาปั่นให้ละเอียด นำพอกให้ทั่วผิวหน้า ในมะละกอจะมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หมดได้ จึงทำให้ผิวหน้า สดใส เปล่งปลั่ง 

มาร์คพอกหน้าจากกล้วยผสมน้ำมันมะกอก 
กล้วยสุกยีให้ละเอียด เติมน้ำมันมะกอกลงไปเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อครีมข้น นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้ว 
ล้างออก จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นขึ้น เหมาะกับผิวแห้ง 

มาร์คพอกหน้าสูตรไข่ผสมข้าวโอ๊ต 
ไข่ขาว 1 ฟอง ผสมกับ ข้าวโอ๊ต 1 ช้อนชา คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที สูตรนี้เหมาะกับ 
ผิวมันค่ะ เพราะจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากใบหน้า และช่วยปรัปผิวให้สมดุลมากขึ้น 

มาร์คพอกหน้าจากแตงกวา (เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม) 
ให้ใช้แตงกวา1 ผล ไขไก่ 1 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่ขาว) และมะนาว 1 เสี้ยว หั่นแตงกวาเป็นแว่นบางๆ นำไปปั่นพร้อมกับไข่ขาวและบีบน้ำมะนาวลงไป ปั่นจนละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอก ให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตาไว้ ทิ้งไว้ 
ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างหน้าตามปกติ หมั่นทำบ่อยๆ ทุกสัปดาห์ จะช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังช่วยสมานผิวหน้า 
กระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน เต่งตึง และนวลนุ่มชุ่มชื่น เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม
 


ดึงเมนู 'พริก' พิชิตความอยาก

ใครที่มีปัญหาเรื่องควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินความพอดีอาจแก้ไขได้ด้วย "พริก" โดยนักวิจัยมหาวิทยาลัยเพอร์ดู ในรัฐอินดีแอนาของสหรัฐ ศึกษาพบว่าสารแคปไซซินที่ทำให้พริกมีคุณสมบัติเผ็ดร้อนสามารถลดความหิว ควบคุมความอยากอาหาร และเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงาน
ในการศึกษานักวิจัยให้อาสาสมัครที่มีน้ำหนักตัวปรกติ 25 คน บริโภคพริกชี้ฟ้าครึ่งช้อนชา ซึ่งเป็นปริมาณที่คนส่วนใหญ่บริโภคได้ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ โดยให้รับประทานทั้งในรูปของพริกสดและพริกแห้ง ต่างจากการศึกษาอื่นๆ ที่มักใช้แคปซูล

ผลที่ได้พบว่า เมื่อบริโภคพริกสีแดงช่วยระงับความอยากอาหารและเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้นหลังมื้ออาหาร เนื่องจากสารแคปไซซินช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกายและเผาผลาญพลังงานผ่านการใช้พลังงานตามธรรมชาติ แม้ในกลุ่มคนที่ไม่ได้บริโภคพริกเป็นประจำยังมีความรู้สึกหิวหรือความอยากอาหารลดลง โดยเฉพาะอาหารที่มีรสหวาน เค็ม และมัน

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงอาหารเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยคุมน้ำหนักตัวได้ ทั้งยังเป็นวิธีที่ได้ประโยชน์อย่างยั่งยืนหากทำได้ควบคู่ไปกับการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย


ที่มา: http://variety.teenee.com/foodforbrain/34897.html